Liverpool (2008) เป็นหนึ่งในงานไตรภาคที่ได้รับการกล่าวขานถึงมากที่สุดในวงการภาพยนตร์ร่วมสมัย ของLisandro Alonso (อีก 2 เรื่อง คือLa libertad: 2001, Los muertos:2004 ) นอกจากธรรมชาติใจอันเกรี้ยวกราดแล้วหนังของ Alonso ยังถึงพร้อมด้วยคุณลักษณ์โหดหินยิ่ง แค่จะหามาดูมายลก็เลือดตาแทบกระเด็น..
Farrel เป็นกลาสีผู้แปลกแยกและลึกลับ เขามากับเรือสินค้าที่มีปลายทางอยู่ที่ยูเชอเีอีย(Ushuaia) เมืองใต้สุดของโลก พอถึงที่หมายเสร็จสรรพเขาก็ขออนุญาตกัปตันเรือไปเยี่ยมแม่ โดยที่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นตายร้ายดีประการใด ดวงวิญญาณเขาชอกช้ำ ติดเหล้าและเข้าสังคมไม่ได้ เช่นเดียวกับชาวอาร์เจนไตน์มักเป็น
Farrel แบกอดีตอันคลุมเครือคืนสู่เหย้า เขาเดินทางลึกเข้าไปใน Tierra del Fuego ดินแดนสุดทุรกันดาร มุ่งไปยังโรงเลื่อยที่ซึ่งมีภูมิอากาศหฤโหดบ้าคลั่ง ไม่ปราณีแก่ทุกชีวิตที่ล่วงล้ำ ณ ที่นั่นเขาได้พบกับ 3 ชีวิต แม่ที่กำลังจะสิ้นลม เธอจำเขาไม่ได้ อีกคนเหมือนจะเป็นน้องสาวของเขา เธอพิการ และอีกคนเป็นชายแก่ที่คอยดูแลผู้หญิงสองคนนั่น ฟาร์เรลขลุกอยู่ที่นั่น 2-3 ชั่วโมง จากนั้นก็ตกลงใจบ่ายหน้ากลับสู่การเดินทางของตน จรดเท้าจากไป ปล่อยให้เรื่องราวขับเคลื่อนไปโดยปราศจากตัวเขา
Farrel ไม่ใยดีครอบครัวได้ หนังก็ทิ้งขว้างเขาเป็นการตอบแทนได้เช่นกัน ฝีภาพก่อน ๆ จะเห็นภาพสถานที่ที่ครั้งหนึ่งฟาร์เรลเคยทิ้งไว้เบื้องหลังซึ่งกล้องผูกเป็นปมทิ้งไว้ตามรายทาง เหมือนเป็นการคาดเดาการตัดสินใจของเขาในกาลต่อมา การเปลี่ยนมุมมองดังกล่าวถือว่ามีนัยยะเข้มข้นสำหรับผู้กำกับสมถะนิยม (a minimalist film-maker)อย่างอลอนโซทั้งยังนับเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของขนบการผลิตงานของเขาด้วย
credit : enyxynematryx
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น