วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

KOKTEBEL ศรัทธาที่สูญสิ้น



Koktebel เล่าเรื่องของพ่อกับลูกชาย วัย 11 ขวบ ที่เดินทางร่อนเร่จาก Moscow สู่ Koktebel อันเป็นจุดหมายปลายทางซึ่งพี่สาวของพ่อได้อาศัยอยู่ Koktebel เป็นภาษาของชาวตาตาร์ซึ่งเป็นผืนแผนดินที่พำนักพักพิงของพวกเขาใน Krimea อยู่ติดกับทะเลดำ เมื่อชาวตาตาร์ถูกขับไล่หลังสงครามพื้นที่กว้างตรงนั้นก็กลายเป็นฐานอากาศยาน (บิดาของเขากล่าวว่า "ที่ตรงนั้นกระดาษแผ่นหนึ่งสามารถปลิวร่อนไปได้ไกลหลายไมล์" ) การเดินทางครั้งนี้กินระยะเวลายาวนาน ทั้งการเดินเท้า โบกรถ ระหว่างนั้นพวกเขาก็รับจ้างทำงานตามสถานที่ต่างๆเพื่อแลกกับอาหารและที่พักในแต่ละวัน ตลอดการเดินทางนั้นเด็กชายมีบิดาคอยปกป้องคุ้มครองเป็นแบบอย่างในชีวิตและบอกเล่าเรื่องราวความฝันของจุดหมายปลายทาง เด็กชายได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตโดยตรงจากการทำงานกลางแจ้งและความรู้ต่างๆเกี่ยวกับโลกผ่านทางพ่อของเขา อีกทั้งเด็กชายยังมีสัมผัสพิเศษคือเขาสามารถมองเห็นตำแหน่งที่เขายืนอยู่ได้จากมุมมองเบื้องบน สิ่งนี้เชื่อมโยงเด็กชายเข้ากับจิตวิญญาณของนก Albatros เด็กชายนี้เติบโตมากับความฝันเช่นนี้โดยที่เขาหวังว่าวันที่ไปถึง Koktebel เขาจะได้พิสูจน์การโบยบินของตัวเองเหมือนนก Albatros



แต่การเดินทางนั้นยาวนานความฝันและศรัทธาในตัวบิดาเริ่มลดทอนลงเรื่อยๆจากสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของพ่อเขาเอง อย่างไรก็ตามเมื่อความศรัทธาในตัวบิดาสิ้นลง เด็กชายเดินทางโดยลำพังสู่ดินแดนในฝัน แต่แล้วจิตวิญญาณเสรีพร้อมโบยบินของเขาก็ถูกคว้านเป็นรูโหว่ เมื่อกระดาษแผ่นหนึ่งไม่สามารถร่อนไปได้ไกลจริงอย่างที่บิดาของเขากล่าวไว้ และป้า (พี่สาวของพ่อ) ก็ได้ย้ายไปอยู่ไซบีเรียแล้ว

จุดหมายที่เหมือนจะไปไม่ถึงจุดสิ้นสุดบวกกับความฝันที่ถูกทำลายทำให้บางสิ่งบางอย่างในตัวเด็กชายสูญหายไป และไม่อาจเป็นเหมือนเดิมได้อีก ภาวะสูญสิ้นดังกล่าวนำพาสู่การทำลายล้างความฝันด้วยมือของตัวเด็กชายเอง อันเป็นฉากตอนท้ายที่ทรงพลังและทดท้อใจอย่างมาก



Koktebel เป็นหนังที่สงบนิ่งแต่ทรงพลังตามแบบฉบับหนังรัสเซีย ความสัมพันธ์ของบิดาและบุตรคู่นี้สร้างความสะทกสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่สูญหายทั้งในฐานะตัวบุคคลและสังคมโดยรวม หนังเล่าเรื่องด้วยเรื่องราวอันน้อยนิดแต่คิดความมหาศาลมาพร้อมกับการแสดงอันยอดเยี่ยม เป็นหนังรัสเซียที่ควรค่าแก่การชม

Koktebel ชนะรางวัล Special Jury Prize จาก Moscow International Film Festival 2003 และ ชนะรางวัล Best Actor และ Grand Jury Prize จาก Cinemanila International Film Festival 2004

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น